5 ที่เที่ยวเชียงราย ที่สายธรรมชาติต้องไปลองให้ได้สักครั้ง!
5 ที่เที่ยวเชียงราย ที่สายธรรมชาติต้องไปลองให้ได้สักครั้ง! สำหรับใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวภูเขาป่าเขียว โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ต้นไม้ใบหญ้าจะเขียวชอุ่ม
หรือในฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบาย มีหมอกในตอนเช้าให้ได้นั่งจิบกาแฟชมวิวแบบลืมไปเลยว่าชีวิตเคยวุ่นวายแค่ไหน บรรยากาศแบบมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภูเขาที่โอบล้อมพร้อมกับสายลมเย็นๆ พัดผ่านอย่างแผ่วเบาให้ชื่นใจ ต้องไม่พลาดการพาตัวเองไปยืนท่ามกลางทะเลหมอกที่จังหวัดเชียงราย
หนึ่งในจังหวัดที่ถือเป็นไฮไลท์การท่องเที่ยวทางภาคเหนือเลยทีเดียว หรือใครก็ตามที่กำลังสนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่เชียงรายเพื่อชาร์จแบตให้กับตัวเอง วันนี้เราจะขอแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายในฝันของนักเดินทางสายธรรมชาติ ให้ได้ไปสัมผัสกับสายหมอกสวยๆ และอากาศเย็นๆ กัน
ไร่ชาฉุยฟง
สำหรับใครที่ต้องการสูดโอโซนให้สดชื่นเต็มปอด ท่ามกลางบรรยากาศของไร่ชาที่ทอดยาวสุดสายตา
ก็ต้องไม่พลาดกับการแวะจิบชาหอมกรุ่นพร้อมเค้กแสนอร่อย ให้เราได้ดื่มด่ำธรรมชาติท่ามกลางหุบเขา แสงแดดอ่อนๆ และสายลมเย็นๆ ในไร่ชาฉุยฟง
ที่เปรียบเสมือนอาณาจักรชาขนาดใหญ่ แถมที่นี่ยังเป็นแหล่งปลูกและส่งใบชารายใหญ่ให้แบรนด์ดังๆ ในเมืองไทยอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากมาสัมผัสไร่ชาที่นี่ก็มาได้เลย ที่ไร่ชาฉุยฟง ตำบลแม่จัน อำเภอแม่จัน เปิดทำการเวลา 08.00-17.30 น. ของทุกวัน หรือติดต่อได้ที่หมายเลข 053-771-563
พระตำหนักแม่ฟ้าหลวงและพระธาตุดอยตุง
โครงการพัฒนาดอยตุงเกิดจากพระราชดำริของสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ที่ทรงต้องการนำทุ่งดอกไม้นานาพันธุ์ที่มีความสวยงามไม่แพ้ประเทศสวิสเซอร์แลนด์มาไว้ที่ประเทศไทย
จึงได้เกิดเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์และเส้นทางชมธรรมชาติให้คนไทยได้มีโอกาสชื่นชมความงาม วันเวลาในการเข้าชมนั้นสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. โดยแบ่งพื้นที่การเข้าชมเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนพระตำหนัก ค่าธรรมเนียมเข้าชม 70 บาท สวนแม่ฟ้าหลวง ค่าธรรมเนียมเข้าชม 80 บาท และหอพระราชประวัติ ค่าเข้าชม 30 บาท สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-767-001, 053-767-015-7
ไร่บุญรอด หรือสิงห์ปาร์ค
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของการท่องเที่ยวในรูปแบบธรรมชาติที่รอให้ทุกคนไปสัมผัสก็คือไร่บุญรอดหรือสิงห์ปาร์ค ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของพื้นที่เกษตรกรรมที่มีความสวยงามให้เที่ยวชม
ทั้งทุ่งคอสมอส จุดให้อาหารยีราฟและม้าลาย บริเวณพื้นที่สันทนาการและจุดชมวิวไร่ชา ทะเลสาบและหงส์ สวนพุทธา ทุ่งดอกไม้ป่า ทุ่งหญ้าและวิถีชีวิตสัตว์
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สันทนาการสำหรับนักเดินทางที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพชมธรรมชาติ หรือปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติ จุดชมวิวแบบ 360 องศาในรูปแบบพาโนราม่าวิวพ้อยท์
รวมไปถึงโรงเรือนที่เป็นระบบควบคุมอุณหภูมิแปลงปลูกพืชผักเมืองหนาว โดยไร่บุญรอดเปิดให้บริการตลอดทั้งปี สามารถโทรสอบถามได้ที่หมายเลข 091-576-0374 และ 053-172-870
ดอยวาวี
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่ต้องการมาเก็บเกี่ยวโอโซนท่ามกลางธรรมชาติ ได้ชมวิวของไร่ชาที่มาพร้อมกับเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมของชาวจีนฮ่อ ต้องไม่พลาดกับดอยวาวี
ที่เมื่อไปถึงเราก็จะได้สัมผัสถึงบรรยากาศไร่ชาอู่หลงแบบขั้นบันได และยิ่งถ้าใครพร้อมยอมทิ้งเตียงอุ่นจากกรุงเทพฯ ดั้นด้นมาสัมผัสอากาศตอนเช้าตรู่ของที่นี่
ก็จะได้ชมทะเลหมอกก่อนพระอาทิตย์ขึ้นบนความสูงจากพื้นดิน 1,500 เมตรอีกด้วย ส่วนการเดินทางไปดอยวาวีนั้นสามารถไปได้ทั้งทาง อ.แม่สรวย และ อ.ท่าตอน
ดอยผาตั้ง
สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศและย้ายที่พักจากเชียงรายในเมือง ไปนอนชมทะเลดาวที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่เชียงราย ต้องไม่พลาดเลยกับดอยผาตั้ง
ที่ขอบอกก่อนว่าบรรยากาศที่นี่กลางคืนกับกลางวันต่างกันเหมือนกับอยู่คนละที่ สวยคนละแบบ สำหรับกลางคืนทะเลดาวนับแสนล้านลอยเต็มฟ้า
ส่วนตอนเช้าจะปรากฏทะเลหมอกทอดยาวสุดสายตา ไม่ว่าจะแบบไหนก็สวยไม่แพ้กันเลยทีเดียว